แนะวิธีป้องกัน “ไข้หวัดใหญ่”

     รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มงานระบาดวิทยากองควบคุมโรคติดต่อสำนักอนามัย (สนอ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในกรุงเทพมหานครในปี 2559 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 2559 โดยในช่วง3 เดือนแรกของปี 59

แนะวิธีป้องกัน ไข้หวัดใหญ่

     พื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 12,366 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 217.24 รายต่อประชากรแสนคน แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิต อัตราส่วนผู้ป่วยชายต่อหญิง คือ 1 : 1.10 อัตราป่วยจำแนกตามกลุ่มอายุสูงสุด คือ 5-9ปี (1,045.83ต่อประชากรแสนคน) รองลงมา คือ ช่วงอายุ0-4ปี (861.50 ต่อประชากรแสนคน) และ 10-14 ปี (400.45 ต่อประชากรแสนคน) ตามลำดับ ร้อยละของผู้ป่วยจำแนกตามกลุ่มอายุสูงสุด คือ 5-9 ปี (ร้อยละ25.81) รองลงมา ได้แก่ 0-4 ปี (ร้อยละ18.33)และ 10-14 ปี (ร้อยละ10.89) ตามลำดับ

     เขตที่มีอัตราป่วยมากที่สุด คือ พญาไท (426.58ต่อประชากรแสนคน) รองลงมา ได้แก่ จตุจักร (371.03 ต่อประชากรแสนคน) และห้วยขวาง (332.49 ต่อประชากรแสนคน) ตามลำดับ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับ 5 ปี ย้อนหลัง พบว่าสูงกว่าเป็น3.53 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 พบว่าสูงกว่า 2.46 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีผู้ป่วยจำนวน3,841 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 67.48 รายต่อประชากรแสนคน แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต อัตราส่วนผู้ป่วยชายต่อหญิง คือ 1 : 1.14 ทั้งนี้ กทม.มีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยมากที่สุด คือ อุตรดิตถ์ (261.08 ต่อประชากรแสนคน) รองลงมา ได้แก่ เชียงใหม่ (223.44ต่อประชากรแสนคน)

     ทั้งนี้ เนื่องจากในพื้นที่เขตร้อนอากาศแปรปรวนอาจพบไข้หวัดใหญ่ระบาดได้ตลอดปีจึงต้องมีการป้องกัน เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อทางการหายใจ โดยจะได้รับเชื้อที่ออกมาปนเปื้อนอยู่ในอากาศเมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูด ในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันหนาแน่น เช่น โรงเรียน โรงงาน การแพร่เชื้อจะเกิดได้มาก นอกจากนี้การแพร่เชื้ออาจเกิดโดยการสัมผัสฝอยละอองน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยจากมือที่สัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ แล้วใช้มือสัมผัสที่จมูกและปาก

สำหรับคำแนะนำในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สำหรับประชาชนทั่วไปคือ
1.ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้าและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทาความสะอาดมือ
2.ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้า ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ร่วมกับผู้อื่น
3.ไม่ควรคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด
4.รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ดื่มน้ามากๆ นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกาลังกายอย่างสม่ำเสมอ
5.ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานาน โดยไม่จาเป็น
6.ติดตามคำแนะนำอื่นๆ ของสานักอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

ขอบคุณที่มา : www.thaihealth.or.th

Tags: