ข้อควรรู้ ก่อนบริจาคอวัยวะ

     น.พ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกาสภากาชาดไทยทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2559 และทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทย 60 ปี ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย จึงขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยบริจาคอวัยวะเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ข้อควรรู้ ก่อนบริจาคอวัยวะ

     น.พ.วิศิษฏ์ กล่าวเพิ่มเตืมว่า การรักษาผู้ป่วยที่อวัยวะสำคัญล้มเหลวในระยะสุดท้าย ด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยระยะสุดท้ายให้กลับมามีชีวิตใหม่ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุด และเป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่ามากที่สุด

     โดยอวัยวะที่สามารถนำมาปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยนั้น จะต้องได้มาจากผู้บริจาคอวัยวะ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ‘กลุ่มผู้บริจาคที่มีชีวิต’ อวัยวะที่สามารถบริจาคได้ คือ ไต และตับ ผู้บริจาคกลุ่มนี้ต้องเป็นญาติ หรือคู่สมรสของผู้รับอวัยวะเท่านั้น หากผู้รออวัยวะไม่มีญาติ หรือคู่สมรส ที่สามารถบริจาคอวัยวะให้กันได้ เช่น อวัยวะเข้ากันไม่ได้ ผู้บริจาคมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ จึงต้องรออวัยวะจาก ‘ผู้บริจาคกลุ่มที่สอง’ คือ ผู้บริจาคที่เสียชีวิตด้วยภาวะสมองตาย คือ ภาวะที่แกนสมองถูกทำลายจนสูญเสียการทำงานโดยสิ้นเชิง และถาวร ถึงแม้กระตุ้นด้วยวิธีใดๆ ก็จะไม่ตอบสนอง ไม่มีการไอ จาม ไม่สามารถหายใจเองได้ และแม้ใช้เครื่องช่วยหายใจหรือยากระตุ้นใดๆ ก็ไม่สามารถเยียวยารักษาให้กลับมาฟื้นคืนชีวิตได้อีก ถือได้ว่าผู้นั้นเสียชีวิตแล้ว ซึ่งผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากสมองตายสามารถบริจาค หัวใจ ปอด ตับ ไต ตับอ่อน ให้แก่ผู้อื่นได้ ผู้บริจาคอวัยวะที่มีภาวะสมองตายเท่านั้น จึงจะสามารถบริจาคอวัยวะได้

     จึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศไทยประสบปัญหาขาดแคลนอวัยวะ เพื่อใช้ผ่าตัดปลูกถ่ายรักษาตลอดมา ซึ่งศูนย์รับบริจาคอวัยวะเป็นองค์กรเดียว ที่รับลงทะเบียนรอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยในปี 2558 มีผู้ป่วยลงทะเบียนรอรับอวัยวะรวมทุกอวัยวะมากถึง 5,018 ราย แต่มีผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะเพียง 463 ราย จากผู้บริจาคอวัยวะที่เสียชีวิตด้วยจากสมองตายจำนวน 206 ราย จากสถิติจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้บริจาคอวัยวะมีน้อยกว่าจำนวนผู้รออวัยวะอยู่มาก และส่วนใหญ่ผู้บริจาคอวัยวะไม่ได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้ แต่ญาติผู้เสียชีวิตเห็นถึงประโยชน์ของการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จึงยินยอมบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้รออวัยวะ เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ป่วยในระยะสุดท้ายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี

ขอบคุณที่มา : www.thaihealth.or.th

Tags: